อาการหลวงพ่อคูณดีขึ้นต่อเนื่อง



ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
ล่าสุดเช้าวันนี้(21ก.ค.55) เจ้าหน้าที่พยาบาลและลูกศิษย์ที่ดูแลหลวงพ่อคูณ ได้นำเครื่องเขย่าปอด หรือ เครื่องสั่นปอด นำมาสวมใส่ให้แก่หลวงพ่อคูณ หลังจากที่ผลการตรวจของการเอ็กซเรย์ปอดของหลวงพ่อคูณพบว่าระดับน้ำภายในปอดของหลวงพ่อคูณลดลงและเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ อีกทั้งอาการอักเสบของปอดก็ดีขึ้นจนเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติเช่นกัน ดังนั้นทางคณะแพทย์จึงได้นำเครื่องเขย่าปอด หรือ เครื่องสั่นปอด มาช่วยในการรักษาปอด เนื่องจากเครื่องดังกล่าวมีคุณสมบัติในการช่วยในเรื่องของระบายเสมหะรวมทั้งระบายของเสียออกจากปอด

ด้านนายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด และแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการของหลวงพ่อคูณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รู้สึกตัวดี รับเรื่องราวต่างๆได้ดี ซึ่งหลังจากที่คณะแพทย์ได้สั่งหยุดยาปฏิชีวนะที่ให้ผ่านทางหลอดเลือดดำเมื่อวานนี้(20ก.ค.55) เนื่องจากหลวงพ่อคูณรับยาปฏิชีวนะที่ให้ผ่านทางหลอดเลือดดำครบ 14 วัน แล้วนั้น คณะแพทย์ยังไม่พบว่าหลวงพ่อคูณยังมีอาการแทรกซ้อนใดๆขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปอด และเรื่องของการมีไข้แสดงให้เห็น โดยในช่วงเช้าวัดอุณหภูมิร่างกายของหลวงพ่อคูณวัดได้ 36 องศาเซลเซียส อีกทั้งอาการอ่อนเพลียของหลวงพ่อคูณก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ ผลการเอ็กซเรย์ปอดของหลวงพ่อคูณก็ดีขึ้นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นระน้ำในปอดและอาการอักเสบของปอด ก็เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ส่วนที่คณะแพทย์ได้นำเครื่องเขย่าหรือเครื่องสั่นปอดมาสวมใส่ให้หลวงพ่อคูณนั้น เนื่องจากปกติคณะแพทย์ก็จะให้เจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ทำการตบปอดเพื่อเอาเสมหะออกอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่เนื่องจากช่วงนี้หลวงพ่อคูณดูอ่อนแรงอีกทั้งอายุของหลวงพ่อคูณก็มากแล้ว ดังนั้นคณะแพทย์จึงคิดว่าการนำเครื่องเขย่าหรือเครื่องสั่นปอด นำมาใช้กับหลวงพ่อคูณก็จะได้ผลดีกว่า แต่อย่างไรก็ตามคณะแพทย์ก็ยังคงที่จะต้องเฝ้าดูอาการของหลวงพ่อคูณอย่างใกล้ชิดเนื่องจากต้องเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนต่างๆที่อาจจะตามมาหลังหยุดยาปฏิชีวนะไป ส่วนหลวงพ่อคูณจะกลับวัดบ้านไร่ได้เมื่อไรนั้นตนคิดว่าจะต้องรอดูอาการของหลวงพ่อคูณต่ออย่างน้อยอีก 1 สัปดาห์ คณะแพทย์จึงจะทำการประเมินร่างกายของหลวงพ่อคูณอีกครั้งหนึ่ง