“นิวยอร์ก” เตรียมรับมือพายุลูกใหม่
ทางการรัฐนิวยอร์ก ประกาศเตือนประชาชน เตรียมพร้อมรับมือพายุลูกใหม่ ที่แม้จะไม่รุนแรงเท่าเฮอริเคน "แซนดี้" แต่อาจก่อให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลันได้
วันนี้ (
6 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ทางการนิวยอร์กออกประกาศเมื่อวันจันทร์ เตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือพายุลูกใหม่ที่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าถล่มพื้นที่แนวชายฝั่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมกับอนุมัติให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคน “แซนดี้” สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 6 พ.ย. ที่หน่วยเลือกตั้งใดก็ได้ในรัฐ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นหน่วยเลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แถลงว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งสหรัฐ เกี่ยวกับการก่อตัวของพายุลูกใหม่ ที่เกิดจากการรวมตัวของหย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ และอาจเคลื่อนตัวเข้าถล่มรัฐนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งกำลังฟื้นตัวหลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุเฮอริเคน “แซนดี้” แม้จะเป็นพายุที่ไม่มีกำลังแรงมาก แต่ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทางการจึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากพายุลูกดังกล่าวอาจทวีกำลังแรงขึ้นอีก ภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดฝนตกกระหน่ำ น้ำท่วมฉับพลัน และหิมะตกหนักบนพื้นที่ภูเขา
นอกจากนี้ คัวโมยังเรียกร้องให้ผู้ประกอบการผลิต และจ่ายกระแสไฟฟ้า เร่งซ่อมแซมระบบให้กลับมาเป็นปกติโดยด่วน หลังพบว่ามีเพียงพื้นที่เขตแมนฮัตตันเท่านั้น ที่ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้ากลับมาทำงานตามปกติ แต่ชาวนิวยอร์กในพื้นที่ส่วนอื่นยังคงต้องอาศัยอยู่ในความมืดมิด
ขณะที่โรงเรียนในนครนิวยอร์กกว่า 86% หรือกว่า 1,700 แห่ง กลับมาเริ่มเปิดการเรียนการสอนตามปกติได้แล้ว เหลืออีกราว 100 แห่งที่ยังต้องประกาศระงับการเรียนการสอน เนื่องจากยังไม่มีกระแสไฟฟ้า ส่วนระบบขนส่งสาธารณะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติได้แล้วราว 80%
นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แถลงว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งสหรัฐ เกี่ยวกับการก่อตัวของพายุลูกใหม่ ที่เกิดจากการรวมตัวของหย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ และอาจเคลื่อนตัวเข้าถล่มรัฐนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งกำลังฟื้นตัวหลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุเฮอริเคน “แซนดี้” แม้จะเป็นพายุที่ไม่มีกำลังแรงมาก แต่ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทางการจึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากพายุลูกดังกล่าวอาจทวีกำลังแรงขึ้นอีก ภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดฝนตกกระหน่ำ น้ำท่วมฉับพลัน และหิมะตกหนักบนพื้นที่ภูเขา
นอกจากนี้ คัวโมยังเรียกร้องให้ผู้ประกอบการผลิต และจ่ายกระแสไฟฟ้า เร่งซ่อมแซมระบบให้กลับมาเป็นปกติโดยด่วน หลังพบว่ามีเพียงพื้นที่เขตแมนฮัตตันเท่านั้น ที่ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้ากลับมาทำงานตามปกติ แต่ชาวนิวยอร์กในพื้นที่ส่วนอื่นยังคงต้องอาศัยอยู่ในความมืดมิด
ขณะที่โรงเรียนในนครนิวยอร์กกว่า 86% หรือกว่า 1,700 แห่ง กลับมาเริ่มเปิดการเรียนการสอนตามปกติได้แล้ว เหลืออีกราว 100 แห่งที่ยังต้องประกาศระงับการเรียนการสอน เนื่องจากยังไม่มีกระแสไฟฟ้า ส่วนระบบขนส่งสาธารณะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติได้แล้วราว 80%
